THE NEW GENERATION

KHUN GUNN ADIREKSARN

KHUN GUNN ADIREKSARN IS A LEADING ARCHITECT AND INTERIOR DESIGNER IN THAILAND, OFTEN ENTRUSTED TO WORK ON SOME OF THE MOST EXCITING PROJECTS. HE’S A STANDARD BEARER FOR THE NEW GENERATION – WITH HIS INTELLECT AND CURIOSITY, ALWAYS COMMITTED AND CONSTANTLY STRIVING TO BETTER HIMSELF. WITH SUCH POSITIVE ATTITUDE, IT’S NO WONDER HE SUCCEEDS AT EVERYTHING HE PUTS HIS MIND TO.

คุณกัลป์ อดิเรกสาร คือนักออกแบบระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่ใครต่อใครต่างไว้วางใจให้เขาออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าทึ่งคนหนึ่งในเรื่องของความเป็นต้นแบบของคนยุคใหม่ ทั้งฉลาดรอบรู้ และมีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ทุกสิ่งอย่างทุ่มเทและตั้งใจ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะคิดหรือทำสิ่งใดก็มักประสบความสำเร็จได้ดั่งใจหวังเสมอ

KHUN GUNN STARTED OFF BY TELLING US ABOUT HIS CHILDHOOD AND FAMILY LIFE, “I HAVE ONE SISTER WHO IS TWO YEARS OLDER THAN ME. MY MOTHER WAS EDUCATED ABROAD, SO SHE HAS A MORE LIBERAL ATTITUDE TOWARDS CHILDREARING. SHE REALLY LET US THINK FOR OURSELVES, DO THINGS BY OURSELVES, TRY THINGS OUT, FAIL – BUT SHE KEPT HER EYE ON US FROM AFAR. OF COURSE, SHE HAD HER BOUNDARIES, BUT WITHIN THAT WE WERE FREE TO ROAM. WHEN I GOT OLDER SHE SENT ME OFF THE US, AROUND GRADE 9. I WAS THERE ALL THROUGH MY MASTER’S DEGREE, THEN I RETURNED TO THAILAND TO WORK.”

คุณกัลป์ เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงครอบครัวและชีวิตในวัยเด็กของเขา “ผมมีพี่น้องสองคน ผมเป็นน้องคนเล็ก มีพี่สาวหนึ่งคนอายุห่างกันกับผมสองปี ด้วยความที่คุณแม่ของผมท่านเป็นนักเรียนนอกเลยมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ค่อนข้างให้อิสระ  ท่านมักจะหัดให้พวกเราคอยทำอะไรด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกเอง แต่ท่านก็จะคอยดูอยู่ห่างๆ และท่านก็มีกรอบหรือขอบเขตของท่านที่วางเอาไว้ พอผมเริ่มโตขึ้น คุณแม่ส่งผมไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา ผมไปคนเดียวเลย ตั้งแต่เกรดเก้า จนจบปริญญาโทที่นู่น แล้วค่อยกลับมาทำงานที่เมืองไทย”

WITH REGARDS TO HIS EDUCATION IN THE US, KHUN GUNN GRADUATED WITH A BACHELOR’S DEGREE IN FINE ART FROM BOSTON UNIVERSITY, BEFORE COMPLETING HIS MASTER’S DEGREE IN INTERIOR DESIGN AND INTERIOR ARCHITECTURE AT NEW ENGLAND SCHOOL OF ART AND DESIGN. SPEAKING OF HIS DAYS AS A STUDENT, KHUN GUNN SAID, “I WANTED TO BE AN ARTIST AS AN UNDERGRAD, I LOVED DESIGN AND I LOVED ART. AMERICA HAS SO MANY ART MUSEUMS AND I REALLY GOT INTO THEM, REALLY INSPIRED BY ALL THE WORLD-CLASS ART. SO I BEGAN TO TAKE DRAWING CLASSES. THEY DIDN’T JUST TEACH ME TECHNIQUES, BUT ALSO HOW TO THINK – THINK DIFFERENTLY – WHICH IS REALLY THE MOST IMPORTANT ASPECT OF ART, I BELIEVE. MY FAVORITE AMERICAN ARTIST IS RICHARD DIEBENKORN, WHO WORKS MOSTLY WITH LANDSCAPES. I REALLY LIKE HIS TECHNIQUE. I ALSO LIKE DAMIEN HIRST’S INSTALLATIONS. I DON’T REALLY DRAW ANYMORE, BECAUSE I CHANGED TRACKS FOR MY MASTER’S TO INTERIOR DESIGN AND INTERIOR ARCHITECTURE. I DID HAVE A COUPLE OF EXHIBITIONS OF MY DRAWINGS WHEN I FIRST CAME BACK TO THAILAND, BUT ALL MY ENERGY AND WORK ARE REALLY IN DESIGN NOW.”

ด้านการศึกษา คุณกัลป์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านวิจิตรศิลป์ จาก Boston University  และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ New England School Of Art And Design ในสาขา Interior Design และ Interior Architecture คุณกัลป์พูดถึงความเป็นตัวตนให้เราฟังว่า “สมัยเรียนปริญญาตรี ผมอยากเป็นจิตรกร ชอบออกแบบ ชอบอาร์ตมาก คือที่อเมริกามีพิพิธภัณฑ์ศิลปะเยอะ ผมจึงซึมซับ หลงใหลและได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะเหล่านั้น และเวลาเรียนวาดรูป ที่ผมเรียนจะไม่ได้สอนแค่เทคนิค แต่สอนในกระบวนการทางความคิดให้เรามองในมุมที่มันแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งผมมองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่ได้มาจากการเรียนศิลปะ ศิลปินที่ชอบมากเป็นศิลปินอเมริกันชื่อ Richard Diebenkorn เขาเขียนรูปวิวทิวทัศน์และรูปแนวนามธรรม ผมชอบเทคนิคการวาดรูปของเขา แล้วก็จะชอบผลงานของศิลปิน Damien Hirst เป็นงานศิลปะจัดวาง (Installation) ปัจจุบันไม่ได้วาดรูปแล้ว เพราะตอนปริญญาโทผมเบนเข็มมาเลือกเรียน Interior Design กับ Interior Architecture กลับมาใหม่ๆ แรกๆ มีวาดรูปอยู่บ้าง จัดแสดงนิทรรศการไปประมาณสองครั้ง พอระยะหลัง ทำงานออกแบบมากกว่าเลยเบนความสนใจมาด้านดีไซน์”

WHEN HE RETURNED TO THAILAND, KHUN GUNN SET UP HIS OWN ARCHITECTURAL AND INTERIOR DESIGN PRACTICE UNDER THE NAME MPD STUDIO. FROM THE EARLY DAYS UNTIL NOW, HE HAS ESTABLISHED HIMSELF THROUGH PASSION AND COMMITMENT TO THE WORK.

“I HAVE ALWAYS LIKED DESIGN, AND WHEN I WAS YOUNG I ENJOYED LOOKING AT HOUSES, BUILDINGS, STRUCTURES. SO IT MADE COMPLETE SENSE TO SET UP MY OWN PRACTICE, WHICH I DID IN 2004, SO IT’S BEEN MORE THAN 10 YEARS. ALL MY PAST EXPERIENCES HAVE TAUGHT ME, ALLOWED ME TO DEVELOP PROFESSIONALLY. MY DESIGN IDOL IS PROBABLY JOHN PAWSON, A WORLD-RENOWNED ARCHITECT. A REAL MINIMALIST, HIS DESIGNS ALWAYS LOOK DECEPTIVELY SIMPLE, BUT THEY ARE RIFE WITH DETAILS THAT HAVE BEEN ARRANGED JUST SO. HIS DESIGNS ARE WORKS OF ART IN MY OPINION. I LIKE THE CLEANNESS, THE SIMPLICITY, AND THEY HAVE INSPIRED MY OWN WORK.”

ASIDE FROM HIS DAY JOB AS AN ARCHITECT AND INTERIOR DESIGNER, KHUN GUNN RECENTLY DESIGNED AND BECAME A PARTNER IN MORIMOTO, A LUXURIOUS JAPANESE RESTAURANT IN BANGKOK THAT IS THE CURRENT TALK OF THE TOWN. IT IS THE 11TH INTERNATIONAL BRANCH OF THE RESTAURANT HEADED BY RENOWNED IRON CHEF MASAHARU MORIMOTO.

หลังจากจบการศึกษาในระดับปริญญาโท คุณกัลป์ก็กลับมาที่ประเทศไทย และก่อตั้งบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายในของตัวเองในชื่อ Mpd Studio จากวันนั้นถึงวันนี้บริษัทที่เขาปลุกปั้นสร้างมากับมือก็มีรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาเป็นผู้ที่ทุ่มเทให้กับงานที่เขารักร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณกัลป์กล่าวว่า “ในเรื่องของงานดีไซน์นี้ผมก็ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ผมชอบดูรูปตึกรูปบ้าน ชอบออกแบบควบคู่กันมาอยู่แล้ว พอเรียนจบมาก็กลับมาเปิดบริษัท Mpd Studio ขึ้นในปี 2004 ก็สิบกว่าปีมาแล้วที่ผมทำงานด้านนี้ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมได้เรียนรู้ ได้พัฒนาฝีมือ และทำงานออกแบบไว้มากมาย ไอดอลในการทำงานด้านดีไซน์ ผมชอบการออกแบบของ John Pawson สถาปนิกระดับโลกที่โดดเด่นในการสร้างงานออกแบบแนวมินิมัล งานที่เขาออกแบบมาจะดูเรียบง่าย แต่ในรายละเอียดเขามีการจัดวางองค์ประกอบเหมือนสร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งเลย ผมชอบในความสะอาด ความเรียบง่ายของเขา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบของผมอยู่บ้างเหมือนกัน” ปัจจุบันนอกจากเขาจะเป็นเจ้าของบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน Mpd Studio แล้วล่าสุดเขายังเป็นดีไซเนอร์และเป็นหุ้นส่วนของ Morimoto ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูในกรุงเทพที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง และมีสาขาทั่วโลกถึง 11 สาขา ซึ่งการันตีความอร่อยล้ำด้วยชื่อเสียงของเชฟกระทะเหล็กระดับท็อป มาซาฮารุ โมริโมโตะ

BEYOND HIS PROFESSIONAL LIFE, KHUN GUNN ALSO TAKES VERY SERIOUSLY HIS ROLE AS THE HEAD OF A LOVING FAMILY. HE SPENDS A LOT OF TIME WITH HIS WIFE AND TWO CHILDREN.

“MY IDOL IN LIFE IS THE MOVIE CHARACTER CHRIS GARDNER FROM PURSUIT OF HAPPINESS AS PORTRAYED BY WILL SMITH. THE MOVIE’S ABOUT THIS MAN WHO REALLY STRUGGLED BEFORE MAKING IT BIG. I REALLY ADMIRE HIS CHARACTER, HIS COURAGE. THROUGH ALL SORTS OF OBSTACLES, NO MONEY, BEING HOMELESS – THROUGH ALL THAT HE ALWAYS TRIED TO MAKE HIS SON HAPPY. MY SON WAS QUITE SMALL WHEN I SAW IT, SO I WAS PARTICULARLY TAKEN BY THE CHARACTER’S COMMITMENT TO DO EVERYTHING FOR HIS SON. IT’S REALLY WHAT FATHERHOOD’S ALL ABOUT. SACRIFICING NOT MATTER WHAT. THAT’S WHAT I ADMIRED.”

นอกเหนือจากชีวิตการทำงาน คุณกัลป์ก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ยอดเยี่ยมมาก เขามักจะใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูกๆ ทั้งสองคนของเขา คุณกัลป์กล่าวว่า “ผมมีไอดอลในการใช้ชีวิต คือ ตัวละครพระเอกที่ชื่อ Chris Gardner ในภาพยนตร์เรื่อง Pursuit Of Happiness แสดงโดย Will Smith เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับคนทำงานที่สู้ชีวิตจนกลายมาเป็นมหาเศรษฐี คือดูแล้วก็รู้สึกชื่นชมในความตั้งใจของเขา ที่ผ่านอุปสรรค ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน เป็นคนเร่ร่อน แต่เขาก็พยายามทำทุกอย่างให้ลูกชายเขามีความสุข ตอนนั้นผมก็มีลูกชายเล็กๆ เหมือนกันเลยประทับใจ ผมชื่นชมในความทุ่มเทของตัวละครตัวนั้นที่พยายามจะทำทุกอย่างให้กับลูก มันก็เหมือนความเป็นพ่อสามารถทำให้ลูกมีความสุขได้ไม่ว่าจะสถานะไหนก็ตามเลยชื่นชมเขาที่ตรงนี้”

HIS DAILY LIFE IS WELL PLANNED AND GIVES EQUALLY TO ALL THAT IS IMPORTANT TO HIM. OF HIS TIME MANAGEMENT, KHUN GUNN SAID, “I SPLIT MY DAYS INTO THREE: FAMILY, WORK, AND SPORT. ON A WEEKDAY I WAKE UP EARLY SO I CAN DROP MY CHILDREN OFF AT SCHOOL. THEN I EXERCISE, WHICH COULD BE SWIMMING, RUNNING, OR CYCLING – I HAVE A TRAINING PLAN. THEN I GO TO WORK ALL DAY. AFTER WORK I COME HOME TO HAVE DINNER WITH MY FAMILY, PUT THE CHILDREN TO BED, AND EXERCISE AGAIN. MY WEEKENDS ARE ALL FAMILY AND EXERCISE – I PLAY A LOT OF SPORTS AND I AM ALWAYS TRAINING FOR TRIATHLONS WHICH TAKE PLACE EVERY 2-3 MONTHS. I BRING THE WHOLE FAMILY ALONG WHEN I COMPETE, SOMETIMES IT’S UPCOUNTRY, SOMETIMES ABROAD. AS FOR SERIOUS TIME OFF, THAT ONLY HAPPENS DURING SCHOOL BREAK. THAT’S WHEN WE’LL TRAVEL AS A FAMILY. I LIKE TO GO TO PLACES I’VE NEVER BEEN BEFORE SO WHERE WE GO KEEPS CHANGING. SOMETIMES WE’LL GO SKIING, SOMETIMES HIKING, SOMETIMES TO THE DESERT. I TRY TO KEEP THINGS INTERESTING FOR THE CHILDREN. LAST YEAR WE WENT SKIING IN NEW ZEALAND AND THEN HIKING. I THINK THE CHILDREN ENJOYED IT, EXPLORING, SEEING NEW THINGS, MEETING NEW PEOPLE.”

ชีวิตประจำวันของคุณกัลป์ได้รับการจัดสรรปันส่วนเวลาได้ดีอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง คุณกัลป์เล่าให้ฟังว่า “ผมจะแบ่งเวลาเป็นสามส่วนในแต่ละวัน จะมีครอบครัว งาน และกีฬา วันธรรมดาผมตื่นนอนแต่เช้าเพื่อไปส่งลูกที่โรงเรียน เสร็จแล้วก็มาออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือวิ่ง ผมมีเทรนนิ่งแพลนของตัวเอง และไปทำงานทั้งวัน จากนั้นก็กลับมาทานข้าวเย็นกับครอบครัว ส่งลูกเข้านอน แล้วก็ออกกำลังกาย ส่วนวันหยุดของผมก็คือจะใช้เวลากับครอบครัวและออกกำลังกาย ผมเล่นกีฬาเยอะครับ ผมฝึกซ้อมเป็นประจำเพื่อไปแข่งไตรกีฬา ซึ่งมีการแข่งทุกๆ สองเดือนหรือสามเดือน เวลาไปแข่งก็จะพาครอบครัวไปด้วย แข่งตามต่างจังหวัดบ้างต่างประเทศบ้าง แต่ถ้าเวลาพักผ่อนจริงๆ ก็จะเป็นช่วงลูกปิดเทอม ก็จะมีเดินทางไปต่างประเทศ ผมชอบเดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ กิจกรรมก็จะมีตั้งแต่เล่นสกี เดินขึ้นภูเขา ไปทะเลทราย หากิจกรรมสนุกๆ แปลกใหม่ให้ทั้งเราและลูกสนุกไปด้วยกัน ปีที่แล้วไปนิวซีแลนด์มาเล่นสกี แล้วก็ไปเดินป่า พาลูกไปทัวร์สนุกดี ได้ค้นคว้า พบเจออะไรใหม่ๆ เจอคนแปลกๆ”

FROM ALL THAT KHUN GUNN HAS SAID, WE CAN SEE THAT HE HAS A VERY GOOD OUTLOOK ON WORK AND LIFE. WE COULDN’T HELP BUT WONDER IF THERE ARE ANY OBSTACLES THAT HE FINDS DIFFICULT, INSURMOUNTABLE, PERHAPS? HIS REPLY CAME EASILY,

“OF COURSE THERE ARE OBSTACLES, THERE ALWAYS ARE. BUT EVERY TIME I HAVE A PROBLEM, I THINK BACK TO MY YOUNGER DAYS, TO THE BIGGEST PROBLEM I EVER FACED WHICH WAS WHEN I MOVED TO THE US. I ATTENDED SATIT KASET, WHICH DIDN’T HAVE A STRONG ENGLISH PROGRAM. SO YOU CAN IMAGINE WHAT A STRUGGLE LIFE IN THE US WAS INITIALLY. I COULDN’T COMMUNICATE WITH ANYONE, I CARRIED A DICTIONARY EVERYWHERE I WENT, WHICH I HAD TO FLICK THROUGH EVERY TIME I HAD TO TALK. WELL, THAT COULDN’T WORK IN THE LONG RUN, SO I PACKED IT AWAY AND JUST WENT FOR IT. SURE, IT TOOK TIME TO ADJUST, BUT IT BECAME A CHALLENGE I HAD TO OVERCOME. AND I DISCOVERED THAT PEOPLE ARE MOSTLY WILLING TO HELP. SO NOW WHEN I FACE AN OBSTACLE, I FRAME IT AS A CHALLENGE, SOMETHING TO CHARGE AT, TO OVERCOME. TRY TO ENJOY IT, AND IT WILL TEACH YOU THINGS. SO FAR IT HASN’T FAILED ME YET.”

จากที่คุณกัลป์เล่ามาทั้งหมด ดูแล้วเขามีระบบวิธีคิดแบบคนรุ่นใหม่ที่จัดการกับชีวิตได้ดีมาก จนเราแอบสงสัยว่ามีอุปสรรคอะไรบ้างไหมที่ดูยากและยิ่งใหญ่สำหรับเขา คุณกัลป์เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่า “เวลาทำงานอุปสรรคมันก็ต้องมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่ทุกครั้งที่มีปัญหา ผมจะนึกย้อนไปถึงตอนเด็กๆ คืออุปสรรคที่รู้สึกว่ามันใหญ่มากในตอนนั้นคือ การย้ายจากเมืองไทยไปเรียนที่อเมริกา  ที่เมืองไทยผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนสาธิตเกษตร ภาษาอังกฤษไม่ได้ดีมาก ไปที่อเมริกาแรกๆ ลำบากมาก พูดสื่อสารกับใครไม่ได้ ไปไหนก็ต้องพกหนังสือดิคชันนารีตลอด เวลาจะคุยกับใคร หรือไม่เข้าใจคำไหนก็เปิดดิคหา จนมันไม่ไหว เก็บดิคใส่กระเป๋าเดินทางแล้วเดินออกจากห้อง ไปลุยเลย พอหลังจากนั้นก็ปรับตัวได้ เหมือนกับเปลี่ยนความกลัวให้เป็นความท้าทาย ไปมองมันอีกมุม ถ้าไม่เข้าใจก็ให้เขาอธิบายจนเราเข้าใจ อันนั้นเป็นคอนเซ็ปต์ที่ผมเอามาใช้กับปัจจุบันกับงาน เวลาเจอปัญหาจะพยายามเปลี่ยนความกลัวเป็นความท้าทาย พยายามสนุกไปกับมัน พยายามแก้ไขปัญหา ถือว่าเป็นโอกาสที่เราสามารถทำอะไรให้มันดีขึ้น ตอนนี้ก็ยังผ่านมาได้ทุกครั้ง”

KHUN GUNN’S WORKING PHILOSOPHY IS QUITE STRAIGHTFORWARD: PASSION AND COMMITMENT. WE THINK THEY’RE THE SECRETS TO HIS SUCCESS. KHUN GUNN SAID,

“WHATEVER YOU DO, YOU HAVE TO BE PROUD, HONEST, AND COMMITTED. DON’T BE DISHONEST, BECAUSE YOU WON’T SLEEP WELL AT NIGHT. IF YOU’RE HONEST, YOU HAVE NOTHING TO WORRY ABOUT, NO REGRETS. IN DESIGN, YOU HAVE TO KEEP IMPROVING YOURSELF. IN THIS DAY AND AGE, EVERY BIT OF INFORMATION IS AT YOUR FINGERTIPS. YOU CAN GO ANYWHERE IN THE WORLD WITH YOUR PHONE. BUT YOU ALSO HAVE TO KEEP UP. I USED TO READ A LOT, AND BUY A LOT OF BOOKS. NOW IT’S MORE ONLINE, BUT I’M STILL STRIVING TO DEVELOP MYSELF. I TRY TO INCORPORATE NEW IDEAS AND PRODUCTS IN MY WORK. MY COMPANY IS ALSO AT A POINT WHERE WE NEED TO MAKE THAT NEXT LEAP. SO FAR IT’S BEEN ABOUT BUILDING A SOLID FOUNDATION. NOW IT’S TEAM TO GO ON TO THE NEXT LEVEL.”

ปรัชญาการทำงานของคุณกัลป์ เขาเน้นความมุ่งมั่นและทุ่มเท ซึ่งเราคิดว่าสิ่งเหล่านี้นี่เองที่เป็นเคล็ดลับความสำเร็จของเขา คุณกัลป์กล่าวว่า “ ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตาม ต้องทำแล้วมีความภูมิใจกับมัน ซื่อตรง ทุ่มเทให้กับงาน ไม่ได้ไปคดโกงใคร เราก็จะนอนหลับได้สบาย ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลหรือเสียใจภายหลังว่าทำไมเราไม่ทำเต็มที่  งานออกแบบก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่การหาข้อมูลทุกอย่างง่ายมาก อยู่แค่ปลายนิ้วในโทรศัพท์สามารถหาทุกอย่างได้ ข้อดีคือเราสามารถเห็นทุกอย่างในโลกได้ แต่ข้อเสียเราต้องพัฒนาตามมันไปด้วย สมัยก่อนผมอ่านหนังสือเยอะ ซื้อหนังสือเยอะ เดี๋ยวนี้ก็ลักษณะเดียวกันแต่จะเป็นทางออนไลน์มากกว่า ผมจะพยายามพัฒนาตัวเองและผลงานของผมอยู่เสมอ มีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาผสมใช้ ต่อยอดในงานของผม บริษัทของผมก็มาถึงจุดที่เราต้องขยับไปอีกสเต็ป ก่อนหน้านี้สร้างรากฐานให้มั่นคงแต่ตอนนี้มันผ่านช่วงนั้นไปแล้ว มาถึงช่วงที่เราจะต้องผลักดันไปอีกระดับหนึ่งครับ”

LASTLY, KHUN GUNN LEAVES US WITH HIS HOPES AND DREAMS,

“I DO HAVE A DREAM, I WANT TO BE AN INSPIRATION TO OTHER PEOPLE, WHETHER THROUGH MY WORK, LIFE, OR SPORT. I WANT TO SET A GOOD EXAMPLE, I WANT PEOPLE TO SEE MY COMMITMENT IN EVERYTHING I DO AND FOR THAT TO INSPIRE THEM TO BETTER THEMSELVES. THAT WOULD BE VERY SATISFYING INDEED.”

สุดท้ายนี้เราให้เขากล่าวทิ้งท้ายถึงความฝันหรือความมุ่งหวังในชีวิตของเขา คุณกัลป์ก็บอกกับเราว่า “ผมมีความฝันนะ ผมอยากเป็นคนให้แรงบันดาลใจคนอื่นทั้งเรื่องงาน เรื่องกีฬาหรือเรื่องการใช้ชิวิต อยากเป็นตัวอย่างที่ดี อยากสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ให้เขาเห็นเราทำงาน เห็นความทุ่มเท ในทุกๆ เรื่อง คือ ทำให้ผู้อื่นเกิดแรงบันดาลใจจะเป็นเรื่องที่ดีมาก”