Greubel Forsey เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของ Nano Foudroyante อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเรือนเวลาที่ล้ำสมัยซึ่งเกิดจากการศึกษามานานหลายปี และพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบเกินกว่าต้นแบบที่เคยใช้สำหรับโครงการ Experimental Watch Technology (EWT) เดิม โดยการสร้างสรรค์ครั้งนี้ผลิตขึ้นเพียง 22 เรือน โดยการค้นคว้าในนั้นนี้ถือเป็นบทใหม่ที่สำคัญสำหรับ Fundamental Invention ลำดับที่ 10 ของ Greubel Forsey
เดิมที Nano Foudroyante ถูกนำเสนอในปี 2024 ในฐานะนาฬิการุ่นฉลองครบรอบภายใต้โครงการ EWT ซึ่งเป็นแนวคิดที่ก้าวล้ำทางเทคนิคที่สุดของ Greubel Forsey แต่วันนี้ได้พัฒนาเป็นผลงานที่สมบูรณ์และเป็นอิสระอย่างแท้จริง โดยไม่ได้ผูกติดกับวาระครบรอบหรือสถานะต้นแบบอีกต่อไป
นาฬิกา Nano Foudroyante รุ่นใหม่นี้สร้างขึ้นจากทองคำขาว ทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากรุ่นเดิมที่ใช้การผสมผสานระหว่างทองคำขาวและแทนทาลัม และนำเสนอเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่แตกต่างออกไป โดยหน้าปัดทองคำได้รับการตกแต่งด้วยการเคลือบโรเดียม พร้อมวงบอกนาทีสีน้ำเงิน ขณะที่เข็มนาฬิกาทำจาก เหล็กเคลือบสีน้ำเงิน (blued steel) และ แกนเฟือง (cannon pinions) ก็เป็นสีเดียวกัน หน้าปัดย่อย Foudroyante ตอนนี้เป็นสีขาวพร้อมตัวเลขพิมพ์ ทำให้สามารถอ่านค่าได้ชัดเจนขึ้น และสอดคล้องกับความสวยงามของช่องหน้าต่างทูร์บิญอง นอกจากนี้ สายนาฬิกายางพื้นผิวสีน้ำเงินยังช่วยเติมเต็มความงามโดยรวม ถือเป็นการพัฒนาที่ชัดเจนจากรุ่นเดิมและเป็นการนำเสนอบุคลิกที่โดดเด่นของเรือนเวลารุ่นนี้
หัวใจสำคัญของเรือนเวลานี้คือแนวคิดที่ปฏิวัติวงการ นั่นก็คือ นาโนเมคานิกส์ ซึ่งเป็นการควบคุมพลังงานในระดับ นาโนจูล (nanojoule) ภายในกลไกจักรกล การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทำให้กลไก Nano Foudroyante สามารถทำงานในฟังก์ชันที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้ได้โดยใช้พลังงานเพียง 16 นาโนจูล ต่อการกระโดดแต่ละครั้ง เมื่อเทียบกับ 30 ไมโครกูล (microjoules) ในกลไกแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นการลดพลังงานลงอย่างน่าทึ่งถึง 1,800 เท่า
กลไกนี้จะแบ่งแต่ละวินาทีออกเป็นหกส่วนโดยใช้เข็มน้ำหนักเบาสีแดงที่หมุนครบหนึ่งรอบในหนึ่งวินาที และขับเคลื่อนโดยตรงจากการแกว่งของ จักรกรอก 3Hz โดยไม่มี ชุดเฟือง แบบดั้งเดิม แต่ใช้ชุด จักรที่มีแรงเฉื่อยต่ำ (lowinertia wheels) จำนวนน้อยที่สุด เพื่อกระจายพลังงานผ่านกลไกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลไก Nano Foudroyante ถูกฝังอยู่ภายใน ฟลายอิ้งทูร์บิญอง (flying tourbillon) ตัวแรกของ Greubel Forsey ซึ่งสร้างจุดเด่นทั้งทางสายตาและทางเทคนิค หน้าปัดย่อยของ Foudroyante ยังคงอยู่ในตำแหน่งเที่ยงตรงเสมอ แม้ว่าทูร์บิญองจะหมุนอยู่ เพื่อให้สามารถอ่านค่าได้อย่างเหมาะสมที่สุด
เรือนเวลานี้มาพร้อมกลไก ฟลายแบ็ค (flyback) แบบไขลานด้วยมือพร้อมสิทธิบัตร 2 ฉบับ โดยมีส่วนประกอบทั้งหมด 428 ชิ้น (รวมถึง 142 ชิ้นสำหรับกรง ทูร์บิญอง) แม้จะมีความซับซ้อนนี้ แต่กลไกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 31.60 มม. และถูกบรรจุอยู่ในตัวเรือนทองคำขาวขนาด 37.90 มม. ซึ่งเป็นตัวเรือนที่กะทัดรัดที่สุดเท่าที่ Greubel Forsey เคยสร้างมา
ตัวเรือนประกอบด้วยกระจกแซฟไฟร์ (sapphire crystal) ทรงโดมสูงพร้อมการขัดแต่งลาย เกรนแนวเส้นตรง (straight-grained) บริเวณขอบตัวเรือน และฝาหลังแบบโปร่งใส นอกจากนี้ ยังมีการแกะสลักคำว่า “Nano Foudroyante” และ “Greubel Forsey” ที่โดดเด่นเป็นตัวนูนขัดเงาบนพื้นผิวที่ถูก ตอกด้วยมือ (hand-hammered)
เรือนเวลานี้เป็นตัวแทนของความสมบูรณ์แบบและความตั้งใจ โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อนักสะสมเพียง 22 คน ที่จะได้สัมผัสกับเรือนเวลาที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด กะทัดรัดที่สุด และมีแนวคิดที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่ Greubel Forsey เคยผลิตมา