เจาะลึกในรายละเอียด

นอกเหนือไปจากสุนทรียภาพด้านอื่นๆ ที่นาฬิการุ่นประวัติศาสตร์นี้ได้รับการยกย่องแล้ว นาฬิการุ่นนี้ยังมาพร้อมตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มม. ซึ่งเป็นสัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนาฬิกาในช่วงปีทศวรรษ 1950 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับข้อมือขนาดเล็ก ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาขนาดกะทัดรัด และแน่นอนสำหรับผู้ที่หลงใหลเสน่ห์ของสไตล์วินเทจ

โทนสีเขียวแกมทองและสีทองแบบด้าน

ตัวเรือนของ Black Bay Fifty-Eight 18K ถูกปัดแต่งด้วยลายเส้นทั่วทั้งเรือนจึงให้ผิวสัมผัสและลุคแบบด้าน นาฬิการุ่นนี้จึงมีความแตกต่างจากนาฬิกาทองคำในแบบเดิม ผิวสัมผัสแบบด้านของทองคำ 18 กะรัตได้รับการขับเน้นให้ยิ่งโดดเด่นด้วยการผสมผสานอย่างงดงามระหว่างหน้าปัดและขอบตัวเรือนในโทน "สีเขียวแกมทอง" ที่ลึกล้ำ พร้อมรายละเอียดตกแต่งในสีทองแบบด้าน เข็มนาฬิกาทรง "เกล็ดหิมะ" ทำจากทองคำ 18 กะรัต เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์บอกชั่วโมง ฝาหลังตัวเรือนแบบเปิดซึ่งเผยให้เห็นคาลิเบอร์ MT5400 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น ไม่เคยมีการนำเสนอมาก่อนในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ของแบรนด์ และยังเป็นการตอกย้ำถึงความงดงามในทั้งสองแง่มุมของนาฬิการุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นมรดกตกทอดจากนาฬิกาประเภทเครื่องมือที่ทนทานสมดังเจตนารมณ์ของ TUDOR หรือเป็นวัตถุอันเลอค่า จึงนับได้ว่า Black Bay Fifty Eight 18K เป็นนาฬิกาที่ทั้งหายากและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างไม่มีผู้ใดเทียบ

เอกลักษณ์แห่ง Black Bay

เฉกเช่นเดียวกันกับนาฬิกาตระกูล Black Bay รุ่นอื่น Black Bay Fifty Eight 18K ใช้เข็มนาฬิกามุมเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของ TUDOR ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "เกล็ดหิมะ" ดังที่ปรากฏในแคตตาล็อกของแบรนด์เมื่อปี 1969 ผลลัพธ์ก็คือการผสมผสานสุนทรียภาพที่สืบสานมายาวนานเข้ากับการรังสรรค์นาฬิการ่วมสมัยได้อย่างละมุนละไม นาฬิกาในตระกูล Black Bay จึงไม่ใช่เพียงแค่การนาเอารูปแบบคลาสสิกเดิมๆ มาเปิดตัวใหม่เท่านั้น ด้วยความเชื่อมโยงอย่างเหนียวแน่นสู่ยุคปัจจุบัน นี่คือการหลอมรวมเอานาฬิกานักดำน้ำของ TUDOR จากเกือบ 7 ทศวรรษเข้ามาไว้ด้วยกัน แม้จะมีรูปลักษณ์แบบนีโอวินเทจ แต่เทคนิคการผลิต พร้อมความแข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และความเที่ยงตรง รวมถึงคุณภาพของผลงานนั้นล้วนแต่เหนือชั้นกว่ามาตรฐานในปัจจุบันของอุตสาหกรรมนี้ทั้งสิ้น

การรับประกันโดย TUDOR

คาลิเบอร์ MT5400 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองซึ่งเป็นขุมพลังของ Black Bay Fifty-Eight 18K นั้นมีพลังงานสำรอง 70 ชั่วโมง สปริงซิลิคอน ได้การรับรองความเที่ยงตรงจากสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงอย่างเป็นทางการของสวิตเซอร์แลนด์ (COSC) และมีค่าความผันแปรเพียง -2 +4 วินาทีต่อวันหลังจากที่ประกอบกลไกเข้ากับตัวเรือนแล้ว นี่จึงทำให้นาฬิกา Black Bay Fifty-Eight 18K มีความทนทานและความน่าเชื่อถือ TUDOR จึงมั่นใจในคุณภาพและมอบการรับประกันสินค้า 5 ปีสำหรับนาฬิกาทุกเรือนที่จำหน่ายหลังจากวันที่ 1 มกราคม 2020 เป็นต้นไป

Black Bay Fifty-Eight 18K มีตัวเรือนทองคำที่ปัดผิวลายเส้นทั่วทั้งเรือนมอบลุคและผิวสัมผัสแบบด้าน ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากนาฬิกาที่ทำจากทองคำในแบบเดิมที่มักจะมีผิวแวววาว นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของ TUDOR ที่ได้นำทองคำ 18 กะรัตมาทำเป็นตัวเรือนนาฬิกานักดำน้ำอีกด้วย

ฝาหลังตัวเรือนแบบเปิดซึ่งเผยให้เห็นคาลิเบอร์ MT5400 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น ไม่เคยมีการนำเสนอมาก่อนในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ของแบรนด์ และยังเป็นการตอกย้ำถึงความงดงามในทั้งสองแง่มุมของนาฬิการุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นมรดกตกทอดจากนาฬิกาประเภทเครื่องมือ

สายนาฬิกาสองรูปแบบ

BlackBay Fifty-Eight 18K มาพร้อมกับสายสองรูปแบบคือสายหนังจระเข้สีน้ำตาลเข้มและสายผ้าแจ๊กการด์สีเขียวคาดแถบสีทอง

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ tudorwatch.com