Home / News / GMT SPORT “SINCERE FINE WATCHES SPECIAL EDITION”
GMT SPORT “SINCERE FINE WATCHES SPECIAL EDITION”
December 26, 2022
เกรอเบล ฟอร์ซีย์ เผยรูปลักษณ์โทนสีส้มทั้งตัวเรือน
เกรอเบล ฟอร์ซีย์ นาฬิกาที่เป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสม ครั้งนี้ได้เน้นย้ำความเป็นสปอร์ตของนาฬิกาจีเอ็มที สปอร์ต ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นในอะเตลิเยร์ที่เมือง ลา โชซ์-เดอ-ฟงด์ (La Chaux-de-Fonds) ให้ออกมาดูสดใสขึ้น โมเดิร์น และเป็นเวอร์ชั่นที่ดูร่วมสมัยมากขึ้นสำหรับรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ร่วมมือกับ ซินเซียร์ ไฟน์ วอทช์ (Sincere Fine Watches) บริษัทตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาลักชัวรี่ในประเทศสิงคโปร์ โดยเผยโฉมออกมาเป็นนาฬิกาจีเอ็มทีสีส้มรุ่นใหม่!
สีไหนที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต? เป็นคำถามที่เราอาจจะไม่เคยคิดมาก่อน แต่สำหรับนักสะสมส่วนใหญ่ของ Sincere Fine Watch บริษัทพาร์ตเนอร์ที่ร่วมมือกับแบรนด์เกรอเบล ฟอร์ซีย์ มายาวนานนั้น บอกตรงกันว่าเป็นสีส้ม มันเป็นสีเราไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนักในการผลิตนาฬิกา หรือแม้แต่นาฬิกาทั่วไปของเกรอเบล ฟอร์ซีย์ เองก็ตาม จึงเป็นเหตุผลที่มีการนำมาใช้ในครั้งนี้ เนื่องจากสีส้มนั้นเป็นสีที่สว่าง สดใส และเป็นสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวในการทำกิจกรรมต่างๆ ความคล่องตัว และความกล้า ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นคุณค่าที่อะเตลิเยร์ของแบรนด์ให้ความสำคัญ
ด้วยสัญลักษณ์รูปโลกที่มีมหาสมุทรและท้องทะเลเป็นเฉดสีส้มสดใส ณ ตำแหน่ง 7 นาฬิกา ก็ต้องอาศัยความกล้าในการสวมใส่สักนิด ย้อนกลับไปในปี 1929 กวีที่ชื่อพอล เอลูอารด์ (Paul Éluard) เคยเขียนไว้ว่า “โลกเป็นสีน้ำเงินเหมือนกับผลส้ม” และในอีกเกือบ 1 ศตวรรษต่อมา คำของเขาก็กลายเป็นจริง เพราะเกรอเบลล์ ฟอร์ซีย์ ได้ใช้การอุปมาของสีนี้ในทุกองค์ประกอบของนาฬิกา ตั้งแต่ขอบตัวเรือนด้านใน ปลายเข็มชั่วโมงและนาที เม็ดมะยม งานแกะสลักบนปุ่มกด ขีดบอกชั่วโมง ตัวบอกพลังงานสำรอง และตัวบอกไทม์โซนที่สองของฟังก์ชั่น GMT ขณะที่สายนาฬิกาก็ถูกนำเสนอใน 3 รูปแบบ แบบแรกเป็นสายรับเบอร์สีส้มพร้อมแกะสลักค่านิยมหลักของเกรอเบล ฟอร์ซีย์ไว้ด้านหลัง แบบที่สองคือสายที่ทำจากวัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบาพิเศษแบบใหม่ล่าสุด เชื่อมต่อกับสายสร้อยข้อมือตกแต่งด้วยเทคนิคขัดเงา เคลือบด้าน และเคลือบเงา เพิ่มความหรูหราและดูซับซ้อนยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือสายสีดำแบบดั้งเดิม
ชัดเจนในทุกการเคลื่อนไหวแบบสปอร์ต
มูฟเมนต์ของนาฬิกา เกรอเบล ฟอร์ซีย์ จีเอ็มที สปอร์ต “ซินเซียร์ ไฟน์ วอทช์ส สเปเชียล เอดิชั่น” นำเสนอความเฉียบขาดและความสามารถทางเทคนิคทั้งหมดจากโมเดลดั้งเดิมมาสู่ชีวิตจริง โดยนำเอาความสลับซับซ้อนสองรูปแบบที่เป็นผลงานของอะเตลิเยร์มารวมไว้ด้วยกัน เพื่อแสดงประสิทธิภาพการทำงานของมันอย่างเต็มรูปแบบ อย่างแรกคือกลไกตูร์บิญอง 24 วินาที (Tourbillon 24 Secondes) ติดตั้งอยู่บริเวณระหว่าง 12 นาฬิกา และ 2 นาฬิกา บรรจุประดิษฐกรรมพื้นฐานอย่างที่ 3 ของเกรอเบล ฟอร์ซีย์ ไว้ ด้วยกรงตูร์บิญองที่เอียงทำมุม 25 องศา และจะหมุนครบรอบวงในทุกๆ 24 วินาที ทำให้มีประสิทธิภาพในการบอกเวลาดีกว่าตูร์บิญองแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีลักษณะที่มองเห็นได้แตกต่างจากตูร์บิญองแบบอื่นอย่างชัดเจน
อย่างที่สอง มีการจัดวางลูกโลกไว้ตรงบริเวณระหว่าง 7 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา เพื่อการบอกเวลาแบบสามมิติ ซึ่งทำให้เกรอเบล ฟอร์ซีย์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยประดิษฐกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตรนี้จะทำงานหมุนครบรอบวงในเวลา 24 ชั่วโมง จึงสามารถบอกเวลาสากล อ่านค่าได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ วงแหวนแบบ 24 ชั่วโมงที่เป็นมุมมองเหมือนเราอยู่เหนือขั้วโลกเหนือ จะบอกเวลาท้องถิ่นให้อ่านค่าได้ในทุกตำแหน่งลองจิจูด ระบุเวลากลางวันและกลางคืน ขณะที่ฝาหลังมีเวิลด์ไทม์ดิสก์แสดงชื่อเมืองต่างๆ ล้อมรอบด้วยวงแหวน 2 วง ที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถอ่านค่าได้ทั้งเวลาปัจจุบัน (UTC) และเวลาที่ถูกทดในช่วงฤดูร้อนของปี ใน 24 เมืองสำคัญๆ โดยในรุ่นพิเศษนี้ มีการทำชื่อประเทศสิงคโปร์เป็นสีแดงสด และเวิลด์ไทม์ดิสก์นี้ก็สามารถแยกระหว่างไทม์โซนที่มีการทดเวลาในฤดูร้อน (บนพื้นหลังสีสว่าง) และไทม์โซนที่ไม่มีการทดเวลาดังกล่าว (บนพื้นหลังสีเข้ม) ได้อีกด้วย
ประกอบเข้าด้วยกันในสไตล์โมเดิร์น
ตัวเรือนแบบใหม่เป็นพื้นผิวขัดซาตินแนวนอน ทำให้หน้าปัดดูกว้างขึ้น ขอบตัวเรือนแบบขัดเงามาพร้อมเส้นโค้งที่ดูนุ่มนวลและโดดเด่น โดยมีไฮไลท์การตกแต่งใหม่ที่เป็นความโดดเด่นเฉพาะตัวของขอบตัวเรือนรุ่นจีเอ็มทีสปอร์ต นั่นคือรูปทรงวงรีที่โค้งเล็กน้อยตรงบริเวณ 12 นาฬิกา และ 6 นาฬิกา เพื่อให้พอดีกับส่วนโค้งของข้อมือ แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะเสริมในเรื่องของการใช้งานและข้อเท็จจริงในความเป็นนาฬิการ่วมสมัย ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกวัน
สายนาฬิกาแบบโลหะ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเกรอเบล ฟอร์ซีย์
การใช้งานลักษณะนี้ได้ขยายมาสู่สายสร้อยข้อมือรูปแบบใหม่ของนาฬิกา จีเอ็มที สปอร์ต ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ความใหม่สำหรับนาฬิการุ่นนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นสายโลหะแรกที่ทำขึ้นโดยเกรอเบล ฟอร์ซีย์ อีกด้วย โดยเป็นการออกแบบทั้งหมดภายในโรงงานของแบรนด์เอง ทำขึ้นสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสายไทเทเนียมที่เชื่อมต่อ (integrated) เข้ากับตัวเรือน จีเอ็มที สปอร์ต ได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สอดรับเข้ากับรูปทรงวงรีของตัวเรือนและขอบตัวเรือนได้อย่างแนบเนียน ติดตั้งมาพร้อมระบบ quick fit ซึ่งสามารถปรับขนาดที่ต่างกันได้แม้ไม่กี่มิลลิเมตร ก็ทำให้เราได้เลือกสวมใส่ทั้งแบบหลวมๆ สบายๆ หรือกระชับพอดีกับข้อมือ
ดุจงานประติมากรรมบนข้อมือ
บนหน้าปัด สะพานจักรโค้งในส่วนตรงกลางและสะพานตูร์บิญองเป็นแบบโอเพนเวิร์ก ทำให้ตัวบอกเวลาสามมิติอ่านค่าได้ง่ายขึ้นและเผยให้เห็นโทนสีส้มสดใส โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าปัด 42 มม. (45 มม. เมื่อรวมขอบตัวเรือน) ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงเทคนิคของความเป็นนาฬิกาจีเอ็มทีที่เหมาะสมกับวิธีการอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเข็มชั่วโมงและนาทีตรงกลาง, เวลาที่สอง ณ ตำแหน่ง 10 นาฬิกา, ค่าพลังงานสำรอง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และลูกโลก ณ ตำแหน่ง 8 นาฬิกา รุ่นพิเศษนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 5 เรือน ด้วยดีไซน์สุดพิเศษสำหรับการจัดจำหน่ายโดย ซินเซียร์ กรุ๊ป ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทยเท่านั้น