Home / News / THE NEW BREITLING CHRONOMAT COLLECTION

THE NEW BREITLING CHRONOMAT COLLECTION

December 8, 2020

THE NEW BREITLING CHRONOMAT COLLECTION:

นาฬิกาสปอร์ตอเนกประสงค์ที่พร้อมจะติดตามคุณไปทุกที่

Chronomat B01 42 with a silver dial and black contrasting chronograph counters

Chronomat (โครโนแมท) เปรียบเสมือนคอลเลคชั่นที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) กับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 1984 ในยุคที่นาฬิกา Quartz (ควอทซ์) เรือนบางเฉียบกำลังเป็นที่นิยม Breitling (ไบร์ทลิ่ง) วางเดิมพันด้วยนาฬิกาจักรกลอันยอดเยี่ยมที่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เป็นผู้ชนะและกลายเป็นตัวแทนแห่งยุค จนเวลาเกือบ 40 ปี ต่อมา Chronomat (โครโนแมท) ได้รับการออกแบบใหม่อีกครั้งเพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งชายและหญิงที่มีเป้าหมาย พร้อมลุย และมีสไตล์

Breitling Chronomat (ไบร์ทลิ่ง โครโนแมท) รุ่นใหม่ นับเป็นนาฬิกาสปอร์ตอเนกประสงค์อย่างแท้จริง มันสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ที่บ้าน เดินเล่นชายหาด ไปจนถึงงานเลี้ยงสุดหรู ด้วยคุณสมบัติอันเลื่องชื่อจนเป็นที่น่าจดจำของนาฬิกาสุดคลาสสิคจากยุค 1980s สายนาฬิกา Rouleaux (โรลอซ์) ที่สะดุดตาพร้อมบานพับแบบปีกผีเสื้อที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งสื่อให้เห็นถึงสไตล์ย้อนยุคที่แฝงความทันสมัยของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) เช่นเดียวกับขอบหมุนพร้อมหลักหมุดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นาฬิกา Chronomat (โครโนแมท) รุ่นใหม่จึงเปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) จากวิสัยทัศน์และการคาดการณ์อนาคตที่แม่นยำ

เมื่อ Breitling Chronomat (ไบร์ทลิ่ง โครโนแมท) เปิดตัวในปี 1984 ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการต้อนรับการกลับมา ของนาฬิกาจักรกลสวิสที่เริ่มหายไปเกือบหมดในช่วงที่นาฬิกาควอทซ์ครองตลาดในช่วง 1970s ด้วยแรงบันดาลใจจากนาฬิกา Frecce Tricolori (เฟรคเซ่ ทริโคโรรี่) ที่ได้รับการพัฒนาและเปิดตัวในปี 1983 จากความร่วมมือระหว่างฝูงบิน Frecce Tricolori (เฟรคเซ่ ทริโคโรรี่) ฝูงบินชื่อดังของอิตาลี  ซึ่ง Chronomat (โครโนแมท) เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) อย่างมีสไตล์ และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการกลับมาของนาฬิกาจักรกลจับเวลาจากแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงอันโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งเทคนิคที่ตกทอดกันมาร่วมกับหลักการออกแบบอย่างมีสไตล์ทำให้ Chronomat (โครโนแมท) กลายเป็นนาฬิกาสปอร์ตสุดเท่แห่งยุค ที่สื่อถึงสุนทรียภาพและความมั่นใจจนกลายเป็นนาฬิกาที่เจ๋งที่สุดอีกครั้ง

ในขณะที่ Chronomat (โครโนแมท) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักบินมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ที่หลงใหลในการผจญภัยทั้งบนบก ผิวน้ำหรือใต้ท้องทะเล แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความอเนกประสงค์ของนาฬิการุ่นนี้ทำให้เกิดความนิยมที่สุดในช่วงปลายยุค 1980s ต่อเนื่องถึงช่วงต้น 1990s ทั้งขอบสเกล Tachymeter (ทาคีมิเตอร์) ที่เหมาะสำหรับทีมรถแข่ง F1 (เอฟวัน) และหลักหมุดบนขอบหมุนที่เหมาะสำหรับทีมแข่งเรือใบ

มั่นใจได้เลยว่าผู้ที่หลงใหลและนิยมการผจญภัยในวันนี้ จะถูกดึงดูดจาก  Chronomat Collection (โครโนแมท คอลเลคชั่น) รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ในการสร้างความหรูหราอย่างแท้จริงในชีวิตประจำวัน สำหรับหนุ่มสาวที่มีเป้าหมาย พร้อมลุย และมีสไตล์ นาฬิกา Chronomat (โครโนแมท) รุ่นใหม่ ที่ได้รับการออกแบบอีกครั้งในปี 2020 โดยมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยแต่ยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และจิตวิญญาณของนาฬิการุ่นดั้งเดิมเอาไว้

Georges Kern, Breitling CEO (จอร์จ เคิร์น, ไบร์ทลิ่ง ซีอีโอ) กล่าวว่า “ปี 1984 Chronomat (โครโนแมท) ครอบครองพื้นที่ที่สำคัญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของเรา ซึ่งเป็นเหมือนนาฬิกาที่ประกาศกร้าวว่า Breitling (ไบร์ทลิ่ง) กำลังยืนหยัดต่อไปในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นในอุตสาหกรรมนาฬิกากำลังหันไปทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับนาฬิกาควอทซ์  ซึ่ง Chronomat (โครโนแมท) ได้ประกาศให้โลกรู้ว่า Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ได้คิดค้นกลไกจักรกลจับเวลาที่ทันสมัย ด้วยข้อความอันกึกก้องและแบรนด์อันรุ่งโรจน์ Chronomat Collection (โครโนแมท คอลเลคชั่น) จึงเปรียบเหมือนคำสรรเสริญถึงนาฬิกาอันน่าทึ่ง และมากกว่าสิ่งอื่นใดที่ทำให้เราได้กลับมาสัมผัสสิ่งที่สืบทอดกันมาของเรา”

Breitling (ไบร์ทลิ่ง) เคยใช้ชื่อ Chronomat (โครโนแมท) กับนาฬิกาบางรุ่นในยุค 1940s และในช่วงแรกที่มาจากคำผสมระหว่าง “Chronograph for Mathematics”  (โครโนกราฟ ฟอร์ แมททิเมติกส์) ส่วน Chronomat (โครโนแมท) ปี 1984 มีที่มาของชื่อที่ต่างกัน โดยมาจากคำว่า “Chronograph and Automatic” (โครโนกราฟ แอนด์ ออโตเมติก) ที่มาจากชื่อของกลไกขึ้นลานแบบ “Self Winding” (เซลฟ์ ไวน์ดิ้ง) ที่ใช้กับนาฬิการุ่นนี้

พบกับ Breitling Chronomat Collection (ไบร์ทลิ่ง โครโนแมท คอลเลคชั่น) – รายละเอียดของการออกแบบที่โดดเด่นและช่วงเวลาสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา

Detailed view of the new Chronomat’s bezel, case and Rouleaux bracelet

Chronomat Collection (โครโนแมท คอลเลคชั่น) เป็นการเปิดตัวนาฬิกายุคใหม่ที่เน้นย้ำถึงการตัดสินใจอันกล้าหาญของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ได้ถูกจังหวะและกลับมาในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาจับเวลากลไกจักรกลที่ยอดเยี่ยม โดยทำให้คุณสมบัติของนาฬิกา Chornomat (โครโนแมท) ทุกเรือนเป็นที่ยอมรับได้ดังนี้

• ขอบหน้าปัดหมุนได้พร้อมหลักหมุดอันมีเอกลักษณ์ ที่ไม่เพียงแค่ช่วยปกป้องกระจกหน้าปัดจากการกระแทกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การหมุนปรับตั้งเวลาเป็นไปได้อย่างสะดวกง่ายดาย
• หลักหมุดที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา สามารถหมุนสลับตำแหน่งกัน เพื่อใช้งานในการจับเวลาถอยหลังได้
• สายนาฬิกา Rouleaux (โรลอซ์) มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ผลิตจาก Stainless Steel (สเตนเลส สตีล) และมาพร้อมกับบานพับแบบปีกผีเสื้อ

นาฬิกาจับเวลารุ่นใหม่ในคอลเลคชั่นนี้ทุกเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไก Breitling Manufacture Caliber 01 (ไบร์ทลิ่ง มานูแฟคเจอร์ คาลิเบอร์ 01) เป็นกลไกจักรกลแบบ In-House (อิน-เฮ้าส์) ที่มีพลังงานสำรองอันน่าประทับใจถึง 70 ชั่วโมง และเป็นที่น่าสังเกตว่า Breitling (ไบร์ทลิ่ง) เคยเปิดตัวกลไก Caliber 01 (คาลิเบอร์ 01) แบบ In-House (อิน-เฮ้าส์) ครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อนในนาฬิกา Chronomat 01 (โครโนแมท 01)

เข็มของนาฬิกา Chronomat B01 42 (โครโนแมท บี01 42) ทุกชิ้นเคลือบสาร SuperLuminova® (ซุปเปอร์ลูมิโนว่า®) วัสดุเรืองแสงที่เพิ่มความชัดเจนในทุกสภาพแสง และนาฬิกาทุกรุ่นยกเว้นรุ่น Frecce Tricolori Limited Edition (เฟรคเซ่ ทริโคโรรี่ ลิมิเต็ด อิดิชั่น) จะมีเข็มจับเวลาสีแดงที่ช่วยทำให้อ่านค่าจับเวลาง่ายดายขึ้น

นาฬิกา Chronomat (โครโนแมท) ทุกรุ่นผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดตามมาตรฐาน Chronometer (โครโนมิเตอร์) จากสถาบัน COSC (ซีโอเอสซี) เหมือนกันนาฬิกาทุกเรือนของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) 

Chronomat (โครโนแมท) นาฬิกาสมบูรณ์แบบที่สุดของคุณอยู่ที่นี่แล้ว

นาฬิกาในคอลเลคชั่น Chronomat (โครโนแมท) มีให้เลือกมากมายทั้งวัสดุตัวเรือนและสีของหน้าปัด ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าหนึ่งในนั้นจะเหมาะสมกับการใช้งานของคุณในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นริมชายหาด ไปทำงานที่ออฟฟิศ จนถึงงานพิธีการของคุณ

เริ่มต้นด้วยนาฬิกา Chronomat B01 42 (โครโนแมท บี01 42) ตัวเรือน Stainless Steel (สเตนเลส สตีล) ขนาด 42 มิลลิเมตร สามารถเลือกสีหน้าปัดสีเงิน สีทองแดง หรือสีน้ำเงินกับหน้าปัดย่อยจับเวลาสีดำ และยังมีรุ่นหน้าปัดสีดำกับหน้าปัดย่อยจับเวลาสีเงิน โดยทุกรุ่นมาพร้อมกับสาย Rouleaux Stainless Steel (โรลอซ์ สเตนเลส สตีล) และบานพับแบบปีกผีเสื้อ

ต่อด้วยนาฬิกา Chronomat Bentley (โครโนแมท เบนท์ลีย์) สำหรับการเฉลิมฉลองการร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์สุดยอดรถยนต์หรูจากประเทศอังกฤษ ด้วยตัวเรือน Stainless Steel (สเตนเลส สตีล) ขนาด 42 มิลลิเมตร หน้าปัดสีเขียวกับหน้าปัดย่อยจับเวลาสีดำ โดยมาพร้อมกับสาย Rouleaux Stainless Steel (โรลอซ์ สเตนเลส สตีล) และบานพับแบบปีกผีเสื้อ โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการสลักตัวอักษร “BENTLEY” (เบนท์ลีย์) รอบฝาหลังแบบโปร่งใส

Chronomat B01 42 Bentley with a green dial and black contrasting chronograph counters

ส่วนนาฬิกา Breitling Frecce Tricolori (ไบร์ทลิ่ง เฟรคเซ่ ทริโคโรรี่) ปี 1983 ที่เปรียบเสมือนแรงบันดาลใจในการผลิตนาฬิกา Chronomat (โครโนแมท) ในปีต่อมาเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์ ซึ่ง Chronomat Frecce Tricolori Limited Edition (โครโนแมท เฟรคเซ่ ทริโคโรรี่ ลิมิเต็ด อิดิชั่น) หน้าปัดสีน้ำเงินกับหน้าปัดย่อยจับเวลาเป็นสีเดียวกัน และโลโก้  Frecce Tricolori (เฟรคเซ่ ทริโคโรรี่) แทนที่ตำแหน่งโลโก้ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ในรุ่นปกติ โดยนาฬิกาที่ระลึกถึงฝูงบินอันยอดเยี่ยมถูกผลิตขึ้นมาจำนวน 250 เรือน และฝาหลังสลักคำว่า “One of 250” (วัน ออฟ 250) เพื่อยืนยันการผลิตแบบจำนวนจำกัด มาพร้อมกับสาย Rouleaux Stainless Steel (โรลอซ์ สเตนเลส สตีล) และบานพับแบบปีกผีเสื้อ

Chronomat B01 42 Frecce Tricolori Limited Edition with a blue dial and tone-on-tone chronograph counters

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา Chronomat (โครโนแมท) และอยากสัมผัสถึงความหรูหราเป็นพิเศษ เราขอแนะนำ Chronomat B01 42 2tones (โครโนแมท บี01 42 2โทนส์) หน้าปัดสีเงิน โดยเม็ดมะยม ปุ่มกดจับเวลา หลักหมุดที่ขอบหมุนทั้ง 4 จุด ชุดเข็ม หลักชั่วโมง และขอบของหน้าปัดย่อยใช้วัสดุ Red Gold 18K (เรด โกลด์ 18 กะรัต) มาพร้อมกับสาย Rouleaux Stainless Steel (โรลอซ์ สเตนเลส สตีล) และบานพับแบบปีกผีเสื้อ

นอกจากนี้นาฬิกา Chronomat 2tones (โครโนแมท 2โทนส์) ยังมีหน้าปัดสีน้ำเงินและหน้าปัด Anthracite (แอนทราไซต์) กับหน้าปัดย่อยจับเวลาสีดำ โดยเม็ดมะยม ปุ่มกดจับเวลา ชุดเข็ม หลักชั่วโมง และที่เพิ่มความพิเศษขึ้นมาด้วยขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียวทั้งชิ้นใช้วัสดุ Red Gold 18K (เรด โกลด์ 18 กะรัต) มาพร้อมกับสาย Rouleaux Stainless Steel (โรลอซ์ สเตนเลส สตีล) สลับกับข้อสาย Red Gold 18K (เรด โกลด์ 18 กะรัต) และบานพับแบบปีกผีเสื้อ

ปิดท้ายสำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่นในแบบนาฬิกาสปอร์ตสุดหรูกับ Chronomat B01 42 (โครโนแมท บี01 42) ตัวเรือน ขอบหน้าปัดหมุนได้ เม็ดมะยม ปุ่มกดจับเวลา ชุดเข็ม หลักชั่วโมง ใช้วัสดุ Red Gold 18K (เรด โกลด์ 18 กะรัต) ทั้งหมด หน้าปัด Anthracite (แอนทราไซต์) กับหน้าปัดย่อยจับเวลาสีดำ มาพร้อมสายยางสีดำและตัวยึดสายแบบบานพับ วัสดุ Red Gold 18K (เรด โกลด์ 18 กะรัต)

เกี่ยวกับนาฬิกา Breitling

ตั้งแต่ปี 1884 Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ได้สร้างชื่อเสียงระดับโลกสำหรับนาฬิกาที่มีความแม่นยำสูงและเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนานาฬิกาข้อมือแบบจับเวลา โดยมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการออกแบบที่เป็นเลิศและเรื่องราวของแบรนด์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการบิน โดย Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพิชิตท้องฟ้าของมวลมนุษยชาติและความมีชื่อเสียงในด้านจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมที่ยังคงได้รับการขนานนามในโลกของวิทยาศาสตร์, การกีฬา และเทคโนโลยี นาฬิกา Breitling (ไบร์ทลิ่ง) ผลิตกลไกด้วยตัวเองแบบ In-House (อิน-เฮาส์) และนาฬิกาทุกเรือนผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน Chronometer (โครโนมิเตอร์) จากสถาบัน COSC (ซีโอเอสซี) และผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Read more

Share this News

FRANCK MULLER – CRAZY HOURS 15TH ANNIVERSARY ASIA EXCLUSIVE

January 29, 2018

FRANCK MULLER LONG ISLAND PEONY

December 21, 2018

CINTRÉE CURVEX

March 10, 2020